Stanley Gayetsky ศิลปิน เพลงแจ๊ส ผู้โด่งดังที่สุดในโลก

Stan Getz

Stanley Gayetsky หรือ Stan Getz เกิดเมื่อวันที 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1991 เป็นนักเป่าแซ็กโซโฟนสัญชาติเมริกัน เน้นเล่นเครื่องแซ็กโซโฟนเทเนอร์เป็นหลัก เป็นที่รู้จักผ่านผลงานเพลง “The Sound” ที่โดดเด่นในด้านเสียงที่มีความอบอุ่นและทรงพลังในเวลาเดียวกัน เขาเกิดในฟิลาเดลเฟีย พ่อแม่ของเขาเป็นชาวยิวยูเครนที่อพยพมาจาก Kiev ซึ่งเป็นพื้นที่ในประเทศ Ukraine เมื่อปี ค.ศ.1903 หลังจากนั้นครอบครัวก็ได้ย้ายเข้ามาในมหานครนิวยอร์กเพื่อหางานทำ

ในระหว่างที่อยู่ที่อเมริกา Getz ขยันเรียนอย่างมากจนสามารถจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอันดับต้นของชั้น เขามีความสนใจในเครื่องดนตรีตั้งแต่เด็ก และมีความอยากสัมผัสกับเครื่องดนตรีทุกชนิดที่ได้พบเจอ ในขณะที่เขาได้ลองเล่นอยู่หลายชนิดพ่อของเขาจึงได้ตัดสินใจซื้อแซ็กโซโฟนตัวแรกให้เมื่อเขาอายุครบ 13 ปี แม้ว่าพ่อของเขาจะทำให้เขาเป็นคลาริเน็ตเป็นของขวัญด้วย แต่เขาตกหลุมรักกับแซกโซโฟนทันทีและเริ่มฝึก 8 ชั่วโมงต่อวัน

เส้นทางอาชีพนักดนตรีของ Stanley Gayetsky

ในปี ค.ศ. 1943 ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของวง Jack Teagarden โดยได้เล่นร่วมกับ Nat King Cole และ Lionel Hampton เขาได้มีโอกาสเล่นกับ Woody Herman ในปี 1947 – 1949 ในเพลง “The Second Herd” ทำให้เขาได้ความสนใจอย่างกว้างขวางในฐานะนักแซ็กโซโฟนคนหนึ่งของวง ของกลุ่มที่เรียกว่า “The Four Brothers” ประกอบไปด้วย Serge Chaloff, Zoot Sims และ Herbie Steward จากนั้น Getz ยังคงร่วมงานกับ Woody Herman จนได้ออกผลงานชื่อ “Early Autumn” จนกระทั่งได้ออกผลงานเดี่ยวครั้งแรกใน “The Second Herd” นับจากปี 1950 เป็นต้นมาก็ได้กลายเป็นผู้ที่นำการบันทึกเสียงของตนเอง

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Getz ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเพลง ได้เล่นดนตรีร่วมกับ Horace Silver, Johnny Smith และศิลปินคนอื่นๆ อีกมากมาย ในปี 1961 เขาได้เดินทางกลับมาที่ประเทศสหรัฐเมริกาอีกครั้ง โดยการมาครั้งนี้ได้ทำให้กลายเป็นบุคคลสำคัญในการนำเพลง Bossa nova มาให้ชาวอเมริกันได้สัมผัส หลังจากที่แฟนๆ ตอบรับเป็นอย่างดีทำให้เขาเริ่มบันทึกอัลบั้ม Getz / Gilberto กับ Tom Jobim หนึ่งในผลงานเพลงได้รับรางวัลแกรมมี่คือ “The Girl from Ipanema” มันได้กลายมาเป็นงานเพลงระดับตำนานจนถึงทุกวันนี้ ในขณะที่อัลบั้ม Getz/Gilberto ชนะรางเวลแกรมมี่ 2 รายการได้แก่ Best Album และ Best Single เวลาต่อมา Getz ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1991 อัฐิของเขาถูกนำไปบรรจุใส่ในกล่องแซกโซโฟนเพื่อไปโปรยในอ่าว Marina del Rey โดยหลานชายของเขา Chris